นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ทั้งระบบ รวมทั้งให้คำแนะนำ เพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ผู้ประกอบการผู้ผลิตอาหารได้เข้าสู่ระบบอาหารปลอดภัย

ภารกิจการตรวจสอบการใช้สารต้องห้ามในการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ นั้น กรมปศุสัตว์ โดยชุดปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ทั่วประเทศ ได้จับกุมผู้กระทำผิด ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้ว จำนวน 41 ราย (1 ตุลาคม 2559 – 31 มีนาคม 2560) โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมานี้ ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว รวม 10 ราย ในพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรี โดยข้อหาส่วนใหญ่ใช้สารเร่งเนื้อแดงผสมในอาหารสัตว์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรมปศุสัตว์ขอยืนยันว่า จะดำเนินการตรวจสอบการใช้สารต้องห้ามในการเลี้ยงสัตว์อย่างเข้มงวด และดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนใช้สารต้องห้ามอย่างเคร่งครัดทุกราย โดยไม่มีข้อยกเว้น เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อผู้บริโภคตามภาระหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ที่มีต่อประชาชน

กรมปศุสัตว์จึงขอแจ้งเตือนผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ที่ฝ่าฝืนใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งส่วนใหญ่มักอ้างว่า วัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาแพง ต้องใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อให้สามารถขายเนื้อได้ราคาสูง เพราะจะทำให้สีของเนื้อหมู และ เนื้อวัว มีสีสวย แดงอมชมพู ซึ่งประชาชนนิยมบริโภค นั้น ให้เลิกการกระทำดังกล่าวทันที เนื่องจากสารเร่งเนื้อแดงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค และยังเป็นการทำลายตลาดอีกด้วย เพราะจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของเนื้อหมูและเนื้อวัว แล้วหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทน


ที่มาของข้อมูล : กองควบคุมอาหารและยาสัตว์ กรมปศุสัตว์

เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ : น้องนุช สาสะกุล นักวิชาการเผยแพร่ กรมปศุสัตว์

http://secretary.dld.go.th/index.php/informationdld/newsdld/2600-90-2560