pic01

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรได้มีมติเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 เห็นชอบกำหนดให้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรฉบับทบทวน (Good Agricultural Practices : GAP) เป็นมาตรฐานบังคับ โดยมีขอบข่ายการบังคับใช้แบ่งเป็น 2 ระยะ ตามขนาดการเลี้ยงสุกร ดังนี้  

  1. สุกรขุน ตั้งแต่ 1,500 ตัวขึ้นไป หรือ สุกรแม่พันธุ์ ตั้งแต่ 120 ตัวขึ้นไป ระยะเวลาปรับเปลี่ยน 90 วัน หลังประกาศราชกิจจาฯ
  2. สุกรขุน ตั้งแต่ 500 – 1,499 ตัว หรือ สุกรแม่พันธุ์ ตั้งแต่ 95 - 119 ตัว ระยะเวลาปรับเปลี่ยน 180 วัน หลังประกาศราชกิจจาฯ

โดยขั้นตอนต่อไปสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จะมีการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรกรฟาร์มสุกรที่อยู่ในเกณฑ์บังคับดังกล่าว และประชาชนทั่วไปโดยประกาศให้ทราบโดยทั่วกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 วัน และให้เวลาแจ้งความคิดเห็นคัดค้าน ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน จากนั้นนำผลการแสดงความคิดเห็นนั้นเสนอคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรเพื่อประกอบการพิจารณามาตรฐานบังคับต่อไป ซึ่งหากเกษตรกรมีข้อคิดเห็นให้ติดตามข่าวและรีบแจ้งได้

ในส่วนของกรมปศุสัตว์ได้เตรียมความพร้อมให้แก่เกษตรกรฟาร์มสุกรมาโดยลำดับ ซึ่งขณะนี้กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานเดียวที่ให้บริการรับรองมาตรฐานฟาร์มสุกร GAP โดยไม่มีค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่ปี 2542 จนล่าสุดฉบับปรับปรุงปี 2558 ซึ่งเป็นฉบับก่อนมาตรฐานบังคับนี้ โดยมียอดการรับรอง GAP ทุกขนาดฟาร์ม ณ เมษายน 2564 รวมจำนวน 4,768 ฟาร์ม ซึ่งในจำนวนนี้มี 4,531 ฟาร์มที่จะเข้าเกณฑ์มาตรฐานบังคับ นับเป็นร้อยละ 61.9 จากจำนวนฟาร์มสุกรทั้งหมดที่จะต้องเข้าสู่มาตรฐานบังคับรวม 7,314 ฟาร์ม สำหรับมาตรฐานบังคับ หากฟาร์มสุกรที่ได้รับรอง GAP อยู่ก่อนแล้วจะไม่กระทบเพราะไม่ต่างจากเดิมมากนัก หากแต่อีก 2,783 ฟาร์มที่ยังไม่ได้รับการรับรอง GAP หากมีผลบังคับใช้จะเกิดปัญหาตามมาได้ เนื่องจากมีผลบังคับตามกฎหมาย พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดยมีสาระสำคัญที่ฟาร์มสุกรต้องทำตาม ดังนี้

  1. ตามมาตราที่ 20 ต้องขอใบอนุญาตเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ โดยเมื่อมีการประกาศบังคับใช้มาตรฐานในราชกิจจานุเบกษา และประกาศจาก มกอช. สามารถยื่นขอใบอนุญาตได้ที่ มกอช. หรือหน่วยงานรัฐที่ มกอช. มอบหมายหรือผ่านทางระบบออนไลน์ที่ http://tas.acfs.go.th/nsw/ เมื่อบังคับใช้หากฝ่าฝืนไม่มีใบอนุญาตต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท
  2. ตามมาตราที่ 27 ต้องขอรับการตรวจสอบและได้ใบรับรองตามมาตรฐานบังคับสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งสามารถยื่นขอรับรอง GAP ได้ฟรีกับกรมปศุสัตว์ทันทีโดยไม่ต้องรอประกาศมาตรฐานฉบับใหม่ เมื่อมีการบังคับใช้หากฝ่าฝืนยังไม่ได้รับรอง GAP ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

กรมปศุสัตว์จึงขอเชิญชวนให้เกษตรกรฟาร์มสุกรที่มีสุกรขุนตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป หรือมีสุกรแม่พันธุ์ ตั้งแต่ 95 ตัวขึ้นไปได้เตรียมความพร้อมการเข้าสู่ GAP ไว้ ซึ่งสามารถขอคำแนะนำได้จากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด หรือเขต โดยกรมปศุสัตว์ให้บริการฟรีตั้งแต่การอบรมให้ความรู้ GAP แก่เกษตรกร หรือการตรวจรับรอง GAP ให้แก่ฟาร์มท่านฟรี ซึ่งการทำตามหลักมาตรฐาน GAP 7 ข้อ คือ องค์ประกอบฟาร์ม การจัดการฟาร์ม บุคลากร สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ สิ่งแวดล้อม การบันทึกข้อมูล ถือเป็นสิ่งที่ให้ผลดีในยุค New normal นี้ เพราะช่วยให้มีระบบการป้องกันโรคที่เข้มแข็งขึ้นรับมือกับภาวะโรคระบาดสำคัญๆ ที่อาจมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โรคอหิวาห์แอฟริกันสุกร (ASF) ซึ่งส่งผลร้ายแรงต่อฟาร์มหากเกิดปัญหาขึ้น การจัดการที่ดีขึ้นของ GAP ยังช่วยแก้ปัญหาเข็มคงค้างหรือลดอัตราการเกิดฝีหนองลง รวมทั้งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การร้องเรียนจากชุมชน อีกทั้งการอยู่ในระบบ GAP ยังได้รับสิทธิพิเศษจากกรมปศุสัตว์ในการบริการเฝ้าระวังโรค การเคลื่อนย้ายสุกร การทำฟาร์มปลอดโรค FMD การลดค่าใช้จ่ายในการตรวจห้องแลป ทั้งยังยกระดับทางการตลาดในประเทศได้กับโครงการ “ปศุสัตว์ OK” หรือเนื้อสุกรอนามัย Q และการต่อยอดการส่งออกทั้งสุกรมีชีวิตและผลิตภัณฑ์สุกรไปยังต่างประเทศ การทำ GAP จึงเป็นผลดีต่อฟาร์มสุกรของท่านทั้งสิ้น เกษตรกรที่สนใจ ขอรับรอง GAP ได้ฟรีที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือจังหวัดที่ตั้งฟาร์มของท่าน หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานปศุสัตว์เขตหรือสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ โทร 02-653-4444 ต่อ 3158

--------------------------------------------------------------------

ข้อมูลโดย : สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (5 พฤษภาคม 2564) ข่าวปศุสัตว์


บันทึก
การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่มีความจำเป็น
ยอมรับทั้งหมด
ปฏิเสธทั้งหมด
Essential
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ท่านจำเป็นต้องยอมรับให้เปิดใช้งาน
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บไซต์ หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนไว้ให้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องได้เลยหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้
ยอมรับ
Functional
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้
คุกกี้ที่ช่วยเหลือในการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยเป็นคุกกี้ประเภทที่ทำให้เว็บไซต์สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ท่านได้
ยอมรับ
ปฏิเสธ
คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ
คุกกี้ประเภทนี้ ทำให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน สามารถรับรู้ข้อมูลประสิทธิภาพเว็บไซต์ได้ เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ แหล่งที่มาของผู้เข้าชม และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด เป็นต้น โดยกรมปศุสัตว์จะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านสถิติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ เท่านั้น
ยอมรับ
ปฏิเสธ
คุกกี้เพื่อกำหนดเป้าหมาย
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เนื่องจากเว็บไซต์กรมปศุสัตว์มีการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งเว็บไซต์อื่นหรือโซเชียลมีเดียของบุคคลที่สามจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยกรมปศุสัตว์ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย โดยคุกกี้ดังกล่าว จะทำการจัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน เช่น ท่านเข้าชมเว็บไซต์ใดบ้าง และเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทางลิงก์ใดบ้าง เป็นต้น โดยผู้ให้บริการจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อกำหนดให้เว็บไซต์ และโฆษณาที่ถูกจัดแสดงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์ในเครือข่ายพันธมิตรของผู้ให้บริการโฆษณา มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น
ยอมรับ
ปฏิเสธ