301159

28 กันยายน 2564 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงปัญหาการทำสัญญาซื้อขายนมโรงเรียนของโรงเรียนเอกชน 17 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดระยองเป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดระยองกับผู้ประกอบเพียง 1 ราย โดยทั่วประเทศมีโรงเรียนทั้งหมด 51,128 โรงเรียน ได้ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว จำนวน 51,111 โรงเรียน คงเหลือโรงเรียนเอกชนจำนวนเพียง 17 แห่ง ในจังหวัดระยองเท่านั้น คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธาน และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน กลุ่มที่ 2 กำลังดำเนินการประสานผู้เกี่ยวข้องและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เด็กได้ดื่มนมโรงเรียนโดยเร็ว

อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงผลการปฏิรูปการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ดังนี้

  • 1. สามารถจัดส่งนมโรงเรียนให้แก่เด็กนักเรียนได้อย่างรวดเร็วกว่าในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะวันแรกของการเปิดภาคเรียน โดยสามารถจัดส่งให้เด็กนักเรียนได้ดื่มครบถ้วนในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น
  • 2. พบปัญหานมเสีย/นมขาดคุณภาพ น้อยลงมาก เนื่องจากการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียน ตั้งแต่ ปีการศึกษา 2562 มีการแบ่งกลุ่มพื้นที่เป็น 5 กลุ่มพื้นที่ และยึดหลักโลจิสติกส์ในการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่าย ทำให้ไม่มีการขนส่งนมโรงเรียนข้ามกลุ่มพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่/คณะทำงาน ตรวจสอบ ติดตามและกำกับดูแล ตั้งแต่คุณภาพน้ำนมดิบจากฟาร์มเกษตร คุณภาพน้ำนมที่โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม การขนส่งนม ตลอดจนถึงการเก็บรักษานม ทำให้ลดปัญหานมเสีย/นมขาดคุณภาพ
  • 3. มีการประกันภัยผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน เพื่อคุ้มครองเด็กนักเรียนที่ดื่มนม ตามหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ได้ระบุให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมที่เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนทุกราย จะต้องทำประกันภัยความรับผิดชอบจากผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภค (เด็กนักเรียน) มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
  • 4. สามารถบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม โดยแต่งตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ซึ่งไม่มีผู้ประกอบการหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนร่วมเป็นกรรมการ (ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) เพื่อป้องกันปัญหาขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือผลประโยชน์ทับซ้อน
  • 5. กระจายอำนาจสู่ส่วนภูมิภาค โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนระดับกลุ่มพื้นที่ (5 กลุ่ม) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ซึ่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯเป็นผู้ดำเนินการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่าย และตรวจสอบ ติดตาม และกำกับดูแลโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน นั้น หน่วยงานในส่วนภูมิภาคซึ่งมีความใกล้ชิดกับพื้นที่ ซึ่งจะมีความเข้าใจในลักษณะเฉพาะของกลุ่มพื้นที่ ทำให้สามารถบริหารจัดการได้คล่องตัวและเข้ากับกลุ่มพื้นที่ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลโครงการ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากผลการปฏิรูปชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมว่า โครงการดังกล่าวบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ เด็กนักเรียนได้ดื่มนมโรงเรียนที่มีคุณภาพ, เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถขายน้ำนมดิบได้ และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมได้รับสิทธิ และการจำหน่ายนมโรงเรียนอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตามหากท่านใดพบปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น กรมปศุสัตว์ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ยินดีรับและรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาปรับปรุงและพัฒนาโครงการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์แก่เด็กนักเรียนและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอย่างยั่งยืนต่อไป อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวในท้ายที่สุด


ข้อมูล/ข่าว : สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ (28 ก.ย. 2564) ข่าวปศุสัตว์


บันทึก
การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่มีความจำเป็น
ยอมรับทั้งหมด
ปฏิเสธทั้งหมด
Essential
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ท่านจำเป็นต้องยอมรับให้เปิดใช้งาน
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บไซต์ หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนไว้ให้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องได้เลยหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้
ยอมรับ
Functional
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้
คุกกี้ที่ช่วยเหลือในการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยเป็นคุกกี้ประเภทที่ทำให้เว็บไซต์สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ท่านได้
ยอมรับ
ปฏิเสธ
คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ
คุกกี้ประเภทนี้ ทำให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน สามารถรับรู้ข้อมูลประสิทธิภาพเว็บไซต์ได้ เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ แหล่งที่มาของผู้เข้าชม และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด เป็นต้น โดยกรมปศุสัตว์จะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านสถิติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ เท่านั้น
ยอมรับ
ปฏิเสธ
คุกกี้เพื่อกำหนดเป้าหมาย
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เนื่องจากเว็บไซต์กรมปศุสัตว์มีการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งเว็บไซต์อื่นหรือโซเชียลมีเดียของบุคคลที่สามจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยกรมปศุสัตว์ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย โดยคุกกี้ดังกล่าว จะทำการจัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน เช่น ท่านเข้าชมเว็บไซต์ใดบ้าง และเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทางลิงก์ใดบ้าง เป็นต้น โดยผู้ให้บริการจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อกำหนดให้เว็บไซต์ และโฆษณาที่ถูกจัดแสดงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์ในเครือข่ายพันธมิตรของผู้ให้บริการโฆษณา มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น
ยอมรับ
ปฏิเสธ